กล้วยไม้ไทย
ไม้ขวด กุหลาบแม่เมยxกุหลาบมาลัยแดง |
เขากวางแดง ฉัตรดา ชิเนนทร |
ไม้นิ้ว ฟาแลนด์ผีเสื้อน้อย |
กล้วยไม้ ฟาแลนด์ ผีเสื้อน้อย เป็นกล้วยไม้พันธุ์แท้หายาก ที่มีถิ่นกำเนิดตั้งแต่ อาณาเขตแถบเทือกเขาหิมาลัยด้านทิศตะวันตก แคว้นอัสสัม ในอินเดีย พม่า ในไทยพบทางภาคเหนือ ลงไปด้านตะวันตกในบริเวณ เขตชายแดนด้านเทือกเขาตะนาวศรี
ผีเสื้อน้อย เป็น กล้วยไม้ สกุล ฟาแลนด์น็อปซิส ที่มี ต้นและใบมีขนาดเล็กมาก เมื่อเทียบกับฟาแลนด์ชนิดอื่นๆทัวไป เมื่อโตเต็มที่ใบยาวเพียง๕-๖ ซม.กว้างประมาณ๒-๔ซม.ใบมีสีเขียวเข้มอมเทา ดอกออกเป็นช่อสั้นแทงข้างลำต้น ขนาดดอกประมาณ ๑.๕ซม.มีดอกดกได้หลายดอกในช่อ กลีบดอก ฟอร์มกลมสีขาว มีสีม่วงแดง ที่กลีบปากรูป สามเหลื่ยม ซึ่งยื่นออกมาชัดเจนแยกจากตัวดอก
การปลูกเลี้ยงโดยทั่วไป มักปลูกติดไม้แขวน หรือปลูกใส่กระถางขนาดเล็ก เครื่องปลูกสามารถปรับใช้ได้หลายอย่าง เช่น แผ่นรากชายผ้าสีดา(สำรับกระถางหรือติดไม้) กาบมะพร้าวสับ หรือแสฟ็กนั่มมอส
กล้วยไม้ ฟาแลนด์น็อปซิส เป็นกล้วยไม้ที่ชอบแสง ค่อนข้างร่มรำไร ไม่ชอบแสงจัด ควรพรางแสงด้วซาแรน ๗o-๘o % หรืออาจแขวนไว้ใต้ร่มไม้ที่มีแสงรำไร ควรปลูกเลี้ยงในที่อากาศ ถ่ายเทสะดวก หลีกเลี่ยงบริเวณที่อับลม
การรดน้ำ วันละครั้ง ทั้งนี้ขึ้นกับความสามารถในการเก็บกักความชื้นของวัสดุปลูก ถึงแม้ส่วนใหญ่กล้วยไม้สกุลนี้มักจะชอบสภาพทีมีความชุ่มชื้นสูง กว่ากล้วยไม้ชนิดอื่นๆ อีกหลายชนิด แต่ ควรเว้นระยะ ให้มีโอกาศได้แห้งบ้าง เพราะหากให้น้ำมากเกินไป จนเครื่องปลูกแฉะอุ้มน้ำมาก มักจะทำให้เกิดโรคและอาจทำให้ ต้นกล้วยไม้เน่าเสียหายได้ ในช่วงฤดูฝน ควรย้ายที่แขวนฟาแลนด์ หลบเข้าที่กันฝน เพราะเม็ดฝน อาจทำให้ยอดอ่อนเน่าได้
ไม้นิ้วไอยเรศสีเข้ม ไอยเรศแดง |
กล้วยไม้ต้นนี้ คุณพงษ์ปกรณ์ โรจนไพบูลย์ นักปลูกเลี้ยงกล้วยไม้ไทยที่เชี่ยวชาญท่านหนึ่งของจังหวัดเชียงใหม่ เป็นเจ้าของต้นพ่อแม่พันธุ์ที่ได้มา จากแหล่งดังกล่าว โดยแรกเริ่มได้มาหลายต้น แต่เมื่อออกดอก ได้พบว่ามีต้นที่สีดีลายชัดเจน ปะปนกับต้นที่โทนสีปานกลาง จึงได้คัดแยกต้นที่มีลักษณะดีออกมาและ ได้ผสมและนำไปเพาะขยายพันธุ์กล้วยไม้ไอยเรศ สีเข้มต้นนี้ ตั้งแต่ช่วงปี๒๕๕o โดยคุณเพรช ซึ่งเป็นเพื่อนกับเจ้าของต้นกล้วยไม้แม่พันธุ์ และเป็นสมาชิกผู้ปลูกเลี้ยงกล้วยไม้ของสมาคมกล้วยไม้เชียงใหม่อีกท่าน จนได้เป็นกล้วยไม้ขวดและนำออกปลูกเลี้ยงอนุบาลเป็นกล้วยไม้นิ้ว โดยไม้นิ้วชุดนี้ได้จากต้นที่สีเข้มจัดที่สุด เท่าที่เคยพบมาในวงการประกวด ของเชียงใหม่ ซึ่งทางเจ้าของต้นแม่พันธุ์และผู้ผสม คาดหวังว่าน่าจะได้ลูกไม้ที่ได้ลักษณะถ่ายทอดทางพันธุกรรมที่ดีด้านสีของดอกมาจากต้นแม่ และทางผู้ผสมได้ให้ความเห็นว่า นี่อาจเป็นการเริ่มต้นพัฒนาไอยเรศ ให้มีสีแดงทั้งดอกเช่นเดียวกับ ช้างแดง ที่ได้มีการผสมพัฒนาสายพันธุ์มานานจนได้กล้วยไม้สกุลช้างดอกสีแดงเข้มที่มีสายพันธุ์คงที่ไม่แปรผัน จนเป็นที่ยอมรับของนักกล้วยไม้ทั่วโลก
กล้วยไม้นิ้วช้างแดงสีเข้ม |
ซึ่งจากประสบการณ์ในวงการกล้วยไม้ของทีมงาน ออร์คิดทรอปปิคอล สังเกตว่าช้างแดงในยุคหลังเป็นลูกไม้ที่มีหลายๆเบอร์เป็นกล้วยไม้ที่มีสายเลือดชิดกันซึ่งทางผู้ผสมอาจไม่ทร าบว่าต้นพ่อแม่พันธุ์เป็นช้างแดงที่เมื่อสืบประวัติย้อนขึ้นไปอาจเป็นช้างแดงที่มีพ่อแม่ หรือ ต้นสายเดียวกัน ซึ่งเมื่อนำต้นลูกหลานมาผสมกัน ก็มักจะเลือกดูต้นที่ดอกสวยเป็นพ่อแม่ซึ่งเมื่อผสมได้ลูกมามักจะได้ ฝักที่มีเมล็ดน้อย เพาะขยายพันธุ์ได้ไม่มากนักในแต่ละครั้ง ซึ่งเมื่อเลี้ยงจนออกดอกก็อาจให้ลูกที่มีความแตกต่างของสีและรูปทรงได้หลากหลาย หรือมีสีอ่อนกว่าเป็นแบบแดงใส ซึ่งการป้องกันการผลิตต้นกล้วยไม้ช้างแดงที่มีสายเลือดชิดกัน ทางทีมงาน จึงพยายามใช้ต้นพ่อแม่ที่ข้ามสายกันไกลๆเพื่อให้ลูกไม้ที่มีคุณภาพ
กล้วยไม้นิ้วช้างแดง ชุดนี้เป็น ลูกช้างแดง สีเข้ม ต้นพ่อแม่พันธุ์ เป็นช้างแดงช่อสวย สีเข้ม สายพันธุ์ ของพลโท วิสูตร นายกสมาคมกล้วยไม้ลพบุรี ผสมและพัฒนาสายพันธุ์ กับช้างแดงช่อยาว จากสวนจริญญาออร์คิด ซึ่งการผสมครั้งนี้ได้คัดต้นที่ดอกสวยและมีสีเข้มที่สุดในชุดมาใช้เป็นพ่อแม่พันธุ์ ลูกไม้ที่ได้มีลักษณะ ใบแคบ ยาว ที่คอใบมีสีแดงเข้ม
ไม้ขวด ฟ้ามุ่ยน้อยแดง |
ไม้ชุดนี้คุณชิเนนทรเล่าให้ผมฟังว่ากว่าจะได้ต้นพ่อต้นแม่ที่แดงเข้มและออกชมพูมาแบบนี้ใช้เวลาหากันเป็นสิบสิบปี "ฟ้ามุ่ยน้อยชมพู" หรือ "ฟ้ามุ่ยน้อยแดง" คุณชิเนนทรเอ่ยถึงชื่อของกล้วยไม้ชนิดนี้ให้ผมฟังนับร้อยครั้งได้แล้วแต่ก็ไม่เคยคาดคิดว่าจะมีอยู่จริง ฟ้ามุ่ยน้อยจัดอยู่ใน กลุ่มสกุลแวนด้าครับ มันเป็นกล้วยไม้สีบลูคล้ายกับฟ้ามุ่ยแต่มีดอกขนาดเล็กกว่า ดอกของเค้าพลูฟูฟ่องราวกับเข็มแสดยามเบ่งบานอวดทรงในช่วงฤดูร้อนช่วงเมษายน บังเอิญที่ผมมาช่วงเมษายนของปีนี้พอดิบพอดีและก็ได้พบกับ "ฟ้ามุ่ยน้อยแดง" ต้นเป็น ๆ
มันน่าประหลาดใจมากครับ ที่ได้เห็นอะไรแบบนี้ มันมีสีแดงจริง ๆ และอีกต้นถึงจะแดงเข้มไม่เท่ากันแต่มันก็เป็น "ฟ้ามุ่ยน้อยแดง" ที่สวยซะเหลือเกิน แม้ยามใกล้จะโรยแล้วก็ตามที ทันไดคุณชิเนนทรก็ได้เล่าถึงความพยายามที่จะขยายพันธุ์เจ้า "ฟ้ามุ่ยน้อยแดง" ให้ผมฟัง "รู้ไหม" คุณชิเนนทรถามผมนัยตาบ่งบอกถึงความตั้งใจอะไรบางอย่าง "กว่าจะได้ทำเป็นไม้ขวดชุดนี้มา ต้องใช้เวลาพอสมควรเลยเชียวละ" ผมฟังแล้วก็งง งง แต่ท่านก็เล่าต่อ "ฟ้ามุ่ยน้อยแดง ทั้งสองต้นนี้จริง ๆ แล้วก็ผสมติดฝักมาตลอด แต่ว่า ฝักไม่เคยเพาะขึ้นเลยแม้แต่ครั้งเดียว อีกทั้งบางครั้งฝักก็แตกก่อนจะถึงเวลาเพาะ" ผมพลางจะพอเข้าใจ คุณชิเนนทรมาบ้างแล้วว่าทำไมถึงใช้เวลาอย่างที่ท่านบอก "แต่เร็ว ๆ มานี้ได้ติดฝักไคว้กันไว้ให้เจ้าต้นแดงเข้มนั้นเป็นแม่ แล้วเอาต้นชมพูเป็นพ่อ ได้ฝักมาเมื่อปีกลายก็ได้นำไปเพาะ ตอนที่แล็ปโทรมาแจ้งว่าได้ไม้ขวดมาแล้วนั้นดีใจมาก" ท่านกล่าวด้วยคำพูดที่ปิติอย่างสังเกตุได้ชัด "ถึงจะได้มาจำนวนน้อย แต่ก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้วที่พยายามมาหลายปี" ท่านกล่าว "ถึงจะได้จำนวนไม่มากนัก แต่ก็ดีใจมากแล้ว" คุณชิเนนทรพูดต่อพลางมองมาที่ผมแล้วเอ่ย "เรานะโชคดีที่ได้เห็นกล้วยไม้หายากพวกนี้ ถ้าเป็นยุคสมัยของเฮียแล้วละก็ กว่าจะได้เห็นฟ้ามุ่ยน้อยแดงสักต้น ทั้งชีวิตตลอด ๕๐ กว่าปีคิดเอาละกันเพิ่งเห็นอยู่แค่ ๒ ต้น มันไม่ได้หาง่ายหรือพบเห็นได้ง่ายเหมือนวันนี้ ที่เราถือกล้องมาถ่ายภาพไปเลยนะ" ฟังจบประโยคนี้ มันทำให้ผมได้รู้ซึ้งถึงคุณค่าของกล้วยไม้ที่หาพบได้ยากยิ่ง อย่าง "ฟ้ามุ่ยแดง" ขึ้นมาเลย
สามปอยขุนตานชิเนนทรสีเข้ม |
ส่วนต้นพ่อพันธุ์ คือ สามปอย ขุนตาน ต้นเหลืองเข้มเป็น ไม้คัด ต้นสวยในชุดแม่พันธุ์สามปอยขุนตานของสวนคุณ ชิเนนทร ลักษณะดอกใหญ่กลีบหนาสีเหลืองนวลเสมอกันทั้งดอก สามปอยต้นนี้มีกลิ่นหอมแรงเป็นพิเศษอีกด้วย
ไม้ขวด ชุดนี้เป็นการผสมที่พัฒนาข้ามชนิด ซึ่งคาดหวังที่จะให้ได้ลูกไม้ที่แข็งแรงเลี้ยงง่าย และมี ดอกช่อดีขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่สามปอยมักเป็น กล้วยไม้ที่มีดอกขนาดปานกลางค่อนข้างใหญ่แต่มีจำนวนดอกในช่อไม่มากนัก เมื่อได้นำมาผสมกับ กล้วยไม้ สกุลเข็ม จึงได้ลูกไม้ที่สีเข้ม ดอกดกพรูขึ้นแต่ขนาดดอกยังค่อนข้างเล็กอยู่ จึงนำมาผสมกลับเข้าสามปอยขุนตานอีก ครั้ง เพื่อเพิ่มขนาดดอกและความหนาของกลีบดอกเพื่อเพิ่มเติมกับคุณสมบัติที่ดีอยู่แล้วเรื่องสีและช่อของกล้วยไม้ลูกผสมสกุลเอสโคเซ็นด้า
กล้วยไม้ชุดนี้เป็นกล้วยไม้รากอากาศสกุลแวนด้า ที่เลี้ยงง่าย สามารถปลูกในบริเวณที่อากาศร้อนได้ดี ชอบเครื่องปลูกที่โปร่งระบายน้ำได้ดี อากาศถ่ายเทสะดวกจะทำให้ลูกกล้วยไม้โตไว พรางแสงรำไร ประมาณ70% เมื่ออยู่ในระยะแรกเริ่มควรเสริมส่วนที่เป็นหลังคากันฝนสำรับลูกไม้เล็ก เมื่อโตขึ้นแข็งแรงดีแล้วจึงค่อยขยับให้ได้แสงมากขึ้นทีละนิด เพราะหากเลี้ยงในที่ร่ม เกินไปต้นกล้วยไม้มักจะไม่ออกดอก
กล้วยไม้สวยมาก
ตอบลบ